People One

สัมภาษณ์อย่างไรไม่ให้พัง EP.01

สัมภาษณ์มาเพียบ ตอนคุยก็ดูจะโอเค แต่ทำไมเงียบทุกที่เลย…

สวัสดีครับ The secret of recruiter ขอนำเสนอ คำถามสะเทือนใจ ถามง่ายๆ แต่ตอบยังไงให้ถูกใจ

“คิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งเรื่องอะไร?”
ประโยคคำถามจากผู้สัมภาษณ์ที่มีผลสำคัญในการตัดสินใจว่า จะรับคุณเข้าทำงานหรือไม่
แต่พอฟังแล้วเหงื่อแตกเลิ่กลั่ก จะตอบยังไง ให้ไม่ดูโอ้อวด ขี้โม้ ชมตัวเอง หรือจะไม่ตอบอะไรเลย วันนี้ Recruiter จะมาเปิดเผยความคาดหวังให้ฟังกันครับ!!!

ก่อนอื่นเลย Candidate ต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกองค์กรที่เราไปสัมภาษณ์โดยส่วนใหญ่แล้ว “มองหาคนเก่ง” ดังนั้น “ความเก่ง” จึงกลายเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายลำดับแรก ก่อนที่จะไปพิจารณาเรื่องต่อๆ ไป เช่น อุปนิสัย ค่านิยม ที่เข้ากับองค์กรได้ไหม Recruiter เจอมาเยอะมากๆ จนท้อแท้ เวลา Candidate เรียกค่าตัว สามารถเรียกได้อย่างมั่นอกมั่นใจ ตั้งแต่หลักหลายหมื่นจนถึงหลักแสน แต่พอเจอคำถามนี้มา บอกได้เลยว่า เกินกว่า 60% ของ Candidate จอดสนิท จน Recruiter หวั่นใจว่า เราจะจ่ายค่าตัวนั้นให้ดีไหม

ดังนั้นสิ่งสำคัญมากๆ เลยที่จะทำให้เราได้งานหรือไม่ได้งาน ก็คือ “เราต้องรู้จักตัวเองว่าเราเก่งเรื่องอะไร”
Candidate ส่วนใหญ่สมัครงานแบบหว่านถั่วเขียวและหวังว่ามันต้องงอกเป็นถั่วงอกซักที่หละวะ…แล้วพอโดนเรียกสัมภาษณ์ก็จะพยายามตอบคำถามทุกอย่างให้ผู้สัมภาษณ์ถูกใจ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะจริงหรือไม่จริง จะเป็นตัวเองหรือไม่ก็ตาม เพราะในใจของ Candidate ท่องว่า ตอบให้ได้งานตลอดเวลา ทำให้ระหว่างสัมภาษณ์ Candidate เผลอมองข้ามและให้ความสนใจเรื่องสำคัญอื่นๆ เช่น วัฒนธรรมองค์กรนี้เป็นอย่างไร คนสัมภาษณ์เป็นอย่างไร เนื้องานนี้น่าสนใจหรือไม่ เราจะทำมันได้หรือเปล่า มีอะไรเป็นข้อจำกัดสำหรับเราหรือเปล่านะ จนกระทั่งเริ่มงานกันไปแล้วสุดท้าย ลาจากตั้งแต่ยังไม่พ้นทดลองงาน น่าเสียดายนะครับ ทั้งเวลาขององค์กร และเวลาของเราเอง

Recruiter เลยอยากจะนำเสนอให้ Candidate สุดที่รัก ตั้งสติหลับตาลงนิ่งๆ ทำใจให้สงบ (สาธุ) แล้วค่อยๆ พิจารณาว่า “เราเก่งเรื่องอะไร” เพื่อเริ่มต้นในการมองหางานที่เหมาะกับตัวเอง และสัมภาษณ์กับงานที่ตัวเองคิดว่า จะทำได้ดี จากความเก่งของเรานั่นหละ
ต้องตอบแบบไหนให้เราเป็นคนที่ใช่?
จำไว้เลยนะ!!! ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราถูกถามว่า “เราเป็นคนเก่งเรื่องอะไร” นั่นคือช่วงเวลา Golden Time ที่จะทำให้เราได้เสนอความสามารถอันยอดเยี่ยมของเรา ดังนั้น เลิกเลยกับคำพูดประเภทว่า “อยากให้พี่พิสูจน์เองมากกว่า ไม่อยากคุย” ปัดโธ่!!! ไม่คุยแล้วจะรู้ไหมว่าเก่งอะไร นี่เราจะต้องมานั่งลุ้น เปิดไพ่ยิบซีดูเหรอว่าจะเป็นยังไง
คำตอบที่ดี คือคำตอบที่มีเนื้อหาและผลงาน ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะเป็น Soft Skill หรือเป็น Hard Skill ก็ตาม นี่คือสิ่งสำคัญที่จำเป็นจะต้องบอกให้ชัดสุดๆ ว่าเราทำเรื่องนั้นได้ดี

ยกตัวอย่าง เช่น
ถ้าเราทำงานในสายอาชีพวิชาชีพ มี Hard skill ที่เกี่ยวข้องชัดเจน เราควรตอบด้วยความรู้เฉพาะทางเพื่อยืนยันว่า เฮ๊ย!!! เราเก่งจริงๆ นะ เช่น เชี่ยวชาญกฎหมายแรงงาน สำหรับอาชีพงานบุคคล เชี่ยวชาญเรื่องการเขียนแบบอาคารสูงสำหรับสถาปนิก เชี่ยวชาญเรื่อง การออกแบบ UX/UI ด้วยโปรแกรม Adobe XD แล้วตอกย้ำเข้าไปด้วยว่า ผลงานที่ผ่านมาของเราคืออะไรบ้าง เท่านี้ผู้สัมภาษณ์ก็จะมั่นอกมั่นใจได้แล้วว่า โอเค เรารู้จริง และควรจะสัมภาษณ์ต่อในประเด็นถัดไป

ถ้าเราทำงานในสายการจัดการ สายบริการ สายบริหาร ส่วนใหญ่ใช้ Soft Skill เราก็ควรจะบอกผู้สัมภาษณ์ให้ชัดเจนว่า เรารับผิดชอบอะไร จัดการเรื่องอะไร และผลงานของเราเป็นอย่างไร เช่น ผมมีหน้าที่บริหาร Project IT ให้กับบริษัท มีหน้าที่ผลักดันและขับเคลื่อนให้งานเป็นไปตาม Timeline ที่กำหนดไว้ โดยมีส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสี่ฝ่าย ความยากของงานนี้คือการทำให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามแผนของตนเองซึ่งจะทำให้ แผนโดยรวมของ Project ไม่ล่าช้า เพราะว่าหากฝ่ายไหน ไม่ทำงานตามแผนแล้วจะทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้รับงานต่อแล้ว Project จะมีปัญหา ซึ่งวิธีการคือ ผมต้องตีสนิท ทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกว่าเราคือคนที่จะมา Support และให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่เป็นคนสั่งงาน มีอะไรที่อาจจะเป็นปัญหาเราจะช่วยหาทางออก แค่ขอให้ทันตามเวลา และเราก็จะคาดการณ์ปัญหาล่วงหน้าและป้องกันก่อนได้ ผลคือ สิบห้า Project ที่ผมรับผิดชอบทั้งหมด ไม่มีล่าช้าจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ครับ…โอ้โห้!!! ฟังแล้วเท่ แถมมั่นใจว่าถ้าเราจ้างคนแบบคุณมาบริหาร Project เราก็น่าจะไม่ล่าช้าเหมือนกัน

นี่หละครับ ช่วงสำคัญของการตอบคำถามที่จะทำให้คุณ Candidate ได้ไปต่อ สิ่งสำคัญของการตอบคำถามนี้ ที่เป็นหลุมพรางสำคัญที่ทำให้คุณพลาดโอกาส คือ การตอบคำถามแบบนามธรรม จับต้องไม่ได้ ไม่มีเหตุการณ์หรือสถานการณ์มาสนับสนุน และเต็มไปด้วยความรู้สึก เช่น

เป็นคนมี Service mind ที่ดีค่ะ เพื่อนๆ ชอบคุยด้วย บอกว่าคุยด้วยแล้วสบายใจ
เป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน เรียนรู้ไว เป็นมิตรกับทุกคน
เป็นคนอารมณ์ดี ไม่เหวี่ยง มีความรับผิดชอบ
เป็นคนคุยเก่งค่ะ ชอบประสานงาน ชอบคุยกับคนเยอะๆ

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งทื่ไม่ดี แต่นี่เป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมในตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับ ซึ่งอย่าลืมว่า ทุกคนในองค์กรทุกที่นั้น ก็ควรเป็นคนมี Service Mind เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ขยัน ตั้งใจทำงาน ไม่เหวี่ยง รับผิดชอบ และประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ดี ในทุกๆ ตำแหน่งอยู่แล้ว

ดังนั้นเริ่มหลับตาแล้วค้นหา “ความเก่ง” ที่เป็นความเก่งเฉพาะของเรา ที่เก่งกว่าคู่แข่ง เหนือกว่าคู่แข่ง เรียบเรียงให้ดี แล้วสัมภาษณ์ครั้งหน้า อย่าลืมบอกเขาไปนะครับว่า “เราเป็นคนเก่งเรื่องอะไร”

อย่าลืม Share ให้คนที่คุณอยากให้เขาได้งานนะครับ

รักทุกคนเสมอครับ

www.peopleone.co.th
Tel : 02-661-7797
E-mail : info@peopleone.co.th

Leave a Comment

Your email address will not be published.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า