ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เงินเก็บ ให้ครอบครัว เลี้ยงลูก
ค่าเทอม อาหารแมว ค่าเน็ตฟลิกซ์
ไม่ใช่เหตุผลในการต่อรองค่าจ้าง
เชื่อไหมครับ!! เวลาผมสัมภาษณ์ และถามเหตุว่า เพราะอะไรถึงคิดว่าคุณควรได้ค่าจ้างตามที่คุณเรียก
คำตอบที่น่าสะพรึงจาก Candidate บ่อยๆ คือ การเล่าภาระทางการเงินของตนเองให้ฟัง…
ใช่ครับภาระทางการเงินของทุกคนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกทำงานและออกแบบรายได้ของตนเอง แต่ต้องระลึกไว้อย่างหนึ่งว่า เป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้ในใจเพราะเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคลที่ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัทฯที่เราจะไปทำงานด้วย เนื่องจากบริษัทฯทุกที่ จัดจ้างพนักงานเพื่อเป็นองค์ประกอบหน่ึงในการประกอบธุรกิจ
ดังนั้นความสามารถในการช่วยบริษัทฯในการประกอบธุรกิจ จึงเป็นปัจจัยหลักในการจ่ายค่าจ้าง มิใช่ธนาคารหรือโรงรับจำนำที่คอยช่วยเหลือผู้มีปัญหาทางการเงินแต่อย่างไร….
มาดูกันว่าเราควรพิจารณาเรื่องการเรียกค่าจ้างหรือต่อรองด้วยปัจจัยใดบ้าง
เรื่องที่ต้องคิดในใจ เป็นเหตุผลเฉพาะบุคคลที่ต้องออกแบบ
– ภาระทางการเงิน
– ความต้องการในการออมเงิน
– ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเดินทางไปทำงาน ค่ารถ น้ำมัน ทางด่วน ค่าครองชีพในพื้นที่ใกล้เคียง
– รายได้ปัจจุบันที่ได้อยู่ที่รวมกับ Benefit อื่นๆ ที่เราได้จากที่เดิม เช่น Fix bonus หรือ Bonus เฉลี่ย ค่า Commission เฉลี่ย Provident fund หรือ สวัสดิการที่กระทบกับค่าใช้จ่ายโดยตรง ซึ่งต้องยุติธรรมกับที่เดิม และใช้ตัวเลขที่เป็นจริงด้วยนะครับ เช่นบางคนบอกว่า เอาประกันสุขภาพ รักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในได้ 500,000 ต่อปีมาหารเฉลี่ย ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ใช้ แบบนี้ไม่ถูกต้องจะทำให้ ตัวเลขมากเกินความเป็นจริง ถ้าจะพิจารณาให้ถูกต้องคือต้องคิดว่า หากทำประกันสุขภาพในอัตราเดียวกันนี้ เราต้องมีค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่ครับ
เรื่องที่เอาไว้ใช้ต่อรองกับบริษัทฯ ยิ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์เป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งทำให้เรามีความสามารถในการต่อรองได้สูงขึ้น
– ความเก่งเฉพาะด้านและความเชี่ยวชาญของเรา
– ประสบการณ์ที่เราปฏิบัติงานในสายงานนั้นมา
– ปริมาณของผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้นมากหรือน้อย และเราอยู่ในกลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือไม่
ทั้งสองเรื่องนี้เมื่อพิจารณาได้แล้วก็เริ่มออกแบบได้แล้วครับว่า องค์กรที่เหมาะสมกับความสามารถของเราด้วยค่าจ้างที่เราคาดหวัง ควรจะเป็นองค์กรแบบมหาชน หรือเอกชน เป็นบริษัทฯ ระดับไหนที่น่าจะยินดีจ่ายเงินแลกกับผลงานที่มีคุณค่าของเรา
แน่นอนว่าเราก็ต้องชั่งน้ำหนักของอัตราค่าจ้างที่จะเรียกอย่างเหมาะสมด้วยนะครับ อย่าลืมว่าเรื่องที่เอาไว้ต่อรองกับบริษัทฯ เป็นเรื่องหลักที่จะแสดงค่าตัวของเรา หากเราพิจารณาอย่างเป็นกลางแล้วพบว่า ความสามารถเราไม่สูงขนาดที่จะเรียกค่าตัวแบบหรูหราได้ แต่ภาระของเราหรือความต้องการทางการเงินของเราสูงเกินกว่าความสามารถของเรา เราก็จะต้องออกแบบแนวทางในการจัดการต่อไป เช่น หาอาชีพเสริม หรือ ปลดภาระบางประการ หรือเพิ่มเติมศักยภาพของเราในรูปแบบอื่นๆ แทนนะครับ
สำหรับแนวทางการเพิ่มศักยภาพนี้ ไว้โอกาสหน้าจะมาแบ่งปันให้ฟังครับ
ขอให้ทุกคนได้งานที่เหมาะกับคุณนะครับ
รักทุกคนเสมอครับ
www.peopleone.co.th
Tel : 02-661-7797
E-mail : info@peopleone.co.th